ทว่าการผ่าตัดไม่ประสบความสำเร็จแถมมะเร็งก็ยังลุกลามไปที่ลำคอและตับของเธอด้วย แคนดีสต่อต้านการทำเคมีบำบัดอย่างหนักแน่นเนื่องจากเธอมองว่าการรักษาด้วยวิธีนี้เป็นสาเหตุทำให้เพื่อนและญาติของเธอเสียชีวิต (อายุ 31 ปีและ 13 ปีตามลำดับ) ดังนั้นแคนดีสจึงตัดสินใจเลือกการรักษาแบบเชิงรุกเพื่อต่อสู้กับโรคร้ายนี้
ประเด็นคือเนื้อสัตว์มีโปรตีนซึ่งเป็นอาหารของมะเร็งและใช้เวลาในการย่อยนานมาก ด้วยเหตุนี้ผู้ป่วยที่ยังรับประทานเนื้อสัตว์จึงไม่หายจากโรคมะเร็งเนื่องจากร่างกายจะใช้พลังงานในการย่อยโปรตีนสัตว์ที่ซับซ้อนแทนที่จะไปต่อสู้กับมะเร็ง
อาวุธลับในการต่อสู้กับโรคมะเร็งของแคนดีสคือสับปะรด ผลไม้เขตร้อนชนิดนี้อุดมไปด้วยโบรมีเลนซึ่งเป็นเอนไซม์ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบยิ่งไปกว่านั้นมันจะช่วยเพิ่มปริมาณเซลล์ที่ทำหน้าที่สังหารเซลล์มะเร็งอีกด้วย แคนดีสจะดื่มน้ำสับปะรดวันละ 3 แก้ว
นอกจากนี้ยังผสมกีวี กล้วย มะนาว เกรปฟรุต มะละกอ และแอปเปิ้ลด้วย และเพียงหกเดือนหลังจากที่เธอรับประทานอาหารสูตรใหม่นี้ โรคมะเร็งระยะที่ 4 ของเธอก็อันตรธานหายไป
ระดับไทโรโกลบูลินของแคนดีส (โปรตีนที่เกิดจากเซลล์มะเร็ง) ลดลงจาก 13 เหลือ 0.7 นาโนแกรมต่อมิลลิลิตร ต่อมาอีกห้าปีก็ลดลงอีกจนเหลือ 0.02 ซึ่งสูงกว่าระดับของคนที่มีสุขภาพปกติเพียง 0.01 เท่านั้น
เป็นไงกันบ้างล่ะครับ กับเรื่องราวที่ไม่น่าเชื่อแต่มันเป็นไปแล้ว พึ่งรู้เหมือนกันว่าสับปะรดต้านโรคมะเร็ง ฝากกันเลยก็แล้วกันนะครับ ใครที่กำลังต่อสู้กับโรคร้ายนี้อยู่ คนที่ไม่เป็นก็กินได้นะครับ ต้านไว้จะได้ไม่ต้องเป็น
ขอบคุณที่มา : http://k.upyim.co/10147/
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น